บทความ
บอกเล่าเรื่องราว กว่าจะเป็น ‘‘ชิ้นงาม’’
การการกำเนิดของ บริษัท ชิ้นงาม จำกัด ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2538 โดย คุณไชยวัฒน์ พิภพพรชัย ซึ่งเกิดจากความจำเป็นทางด้านการหาเงินลงทุนในการเดินทางไปต่างประเทศ ขณะที่เขามีอายุเพียง 21 ปี โดยเริ่มจากการผลิต Furniture เหล็ก ให้กับลูกค้าชาวฟิลิปปินส์ ด้วยเงินลงทุนไม่กี่พันบาท จากคนงานเพียง 1 คน 10 กว่าปีผ่านไป ปัจจุบัน ชิ้นงาม มีทีมงานทั้งหมดราว 40 คน
สวัสดีครับ ผมหมิง / ชิ้นงาม เป็นช่างเหล็กที่ไม่เคยอ๊อกเชื่อมเหล็ก ชอบคิดออกแบบ การตลาด วางแผนงาน และเดินทางผมเรียนจบศิลปะ และออกแบบ (อย่างตั้งใจ จริงจัง พ่อแม่ไม่สนับสนุนในตอนแรก) เริ่มทำงานเหล็กชิ้นเล็กๆ ตอนยังเรียนไม่จบ ปวส/2536 และเปิดร้าน ‘‘ชิ้นงาม’’ เพื่อทำของตกแต่งบ้านขายส่ง ต่างประเทศแล้วก็ได้ทำสำเร็จ และต่อยอดจากชิ้นงานเล็กๆ สู่ project เล็ก ใหญ่ ระดับชาติ และระดับสากลเก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ ครูพักลักจำ แบบตั้งใจและไม่ตั้งใจเกิดเป็นองค์ความรู้แบบฉบับที่ตนเองนำมาใช้ มีปรึกษาผู้รู้จริง มีลูกค้าสอนก็เยอะมาก พัฒนาตัวเองด้วยการเรียนสัมนาจากกูรูสม่ำเสมอ ค้นหาสิ่งที่ขาดจากอ่านหนังสือ และเดินทางดูงานต่างประเทศทุกปี (มาหยุดช่วง covid)
เมื่อดูงานเหล็กในต่างประเทศ และยุโรปจะเกิดแรงพลังกลับมามหาศาล เพราะมันคืออาชีพเราและถูกจริต เพราะมันคือ ศิลปะ ที่มีมาอย่างยาวนานหลาย 100 ปี ผ่านการคิด การออกแบบ มีให้เห็นตั้งแต่ (สากกระเบือ ยันเรือรบ) เครื่องใช้จุกจิก อุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้ในพิธีการในศาสนา ป้าย/sign ประตู รั้ว บันได ใช้ที่บ้านกระท่อม รวมไปถึงในพระราชวงศ์ ความเป็นต้นตำรับและมีแหล่งแร่เหล็ก บวกกับความสามารถในการผลิตและพัฒนาวัสดุให้มีคุณภาพ ตั้งแต่ต้นน้ำ ส่งต่อการตีเหล็กขึ้นรูปด้วยความร้อน (wrought iron) มาถึงการติดตั้งถึงผู้ใช้งานที่ปลายน้ำ ถือว่าเป็นงานปรานีตศิลป์ และสืบทอดกระบวนการเก่าแก่มาอย่างยาวนาน กลายเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิตประจำวันอย่างเลี่ยงไม่ได้เลย
ส่วนงานเหล็กในไทยมีการพัฒนาควบคู่การออกแบบของสถาปนิกต่างชาติจะเห็นเริ่มๆ ในช่วง รัชกาลที่ ๕ ที่เริ่มมีการสร้างวัง สถานีรถไฟ สร้างสะพาน และอื่นๆ ยังพอมีงานเหล็กให้เราพอได้เห็นอยู่บ้าง มาต่อยุค 60-70 ปี ที่ผ่านมาเป็นงานเหล็กลักษณะที่สถาปนิกไทยออกแบบให้เข้ากับบ้าน จะเป็นบ้านคนตระกูลเก่าแก่ ยังพอมีให้เห็นตามชอกซอย ถนนสุขุมวิท สาทร อารีย์ ลาดพร้าว (ผมชอบดูและอมยิ้มคนเดียวเมื่อได้เห็นมัน) มาในยุค 15-25 ปีนี้ งานเหล็กอิตาลี หรือ worught iron มีความนิยมมากขึ้นมาก เริ่มมาจากคนอิตาลีมาทำการตลาดและโรงงานในไทย คนไทยถึงเรียกว่า เหล็กอิตาลี (ผมเองก็ซื้อวัสดุบางส่วนจากเขามา 23-24 ปีแล้ว) สำหรับชิ้นงานในวันนี้เราออกแบบ ผลิต ติดตั้ง งานประตูเหล็กดัด รั้วเหล็กดัด บันไดเหล็กดัด ระเบียงเหล็กดัด และงานศิลปะ art piece ไปเยอะมาก
ทัศนคติผมต่อ ลูกค้า ต่อ การทำงานเหล็ก ในวันนี้มีเจ้าของบ้านเกิน 80% …ที่ผมทำงานด้วย เขามีความคิดความเห็นในรูปแบบงานเหล็กเป็นของตนเองสูงมาก เนื่องจากประสบการณ์ ความรู้ หูตากว้างไกล ความเชื่อมั่น…ทำให้เราพัฒนารูปแบบ เชื่อมโยง ความเป็นตัวตนของเจ้าของ + สิ่งแวดล้อม + งานสถาปัตย์/ตัวอาคาร เป็นหลักใหญ่ (concept หลักคิดของ ชิ้นงาม มาตลอด) แต่ยังมีลูกค้าอีกกลุ่ม ที่อยากได้งานแต่ไม่รู้ลึก สื่อสารไม่เป็น เราก็ให้คำปรึกษาสื่อสารทางด้านแบบ/รูปภาพ ก็จบ happy ending ขอบคุณวีดีโอบทสัมภาษณ์ เจนนิเฟอร์ คิ้ม ต่อบริษัท ชิ้นงาม
‘‘ชิ้นงาม’’ จะเริ่มต้นทำงานด้วยการออกแบบ หลังจากรับเรื่องราวมาระดับนึง
รูปแบบงานเหล็กดัด ที่พบเห็นในบ้านเรา
วัสดุที่ ‘‘ชิ้นงาม’’ เลือกใช้
1. เหล็กตัวหลัก เรานำเข้าจาก อิตาลี 70-80%
2. เหล็ก มอก. ทำกรอบ เสา
3. อะไหล่ใบไม้ ดอกไม้ ตุ้ม นำเข้าตรงจากผู้ผลิตต่างประเทศ
4. สีดำ ด้าน 30% เงา 70% เนื้อสีอะคริลิค ยืดหดตามอากาศได้ดี ผมสั่งผลิตจากบริษัทคนญี่ปุ่น มาเกือบ 20 ปี
5. เชื่อมเหล็ก ด้วยระบบ mig
6. ใช้ความร้อน ในการดัด รีดปลาย
ประสบการณ์ในการทำงานและการร่วมงาน มาเยอะมาก
1. คาสิโน เวเนเชียน ลาสเวกัส
2. ร้านอาหารไทย ในต่างประเทศ เกิน 20 แห่ง
3. โรงแรม ระดับ 5-6 ดาว
4. บ้าน Land & House (300ล้าน) และอีกหลายหมู่บ้าน
5. ห้างอันดับต้นๆ icon siam , terminal21
6. คนมีชื่อเสียง นักร้อง นักแสดง ตำรวจ ทหาร หรือเจ้าสั่ว
7. พระราชวัง และทรัพยสินส่วนพระมหากษัตริย์
8. บ้านคนทั่วไป ทีมีความเป็นตัวตนเองสูง/unique (ผมชอบงานแบบนี้ที่สุด คือ ดิวตรงเจ้าของ สื่อสารไม่ซับซ้อน ได้เรียนรู้มุมมองลูกค้า เหมือนได้เดินทางและงานจบถือว่า small win)………และงานอืนๆ อีกมากมาย ครับ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเลยที่ : http://line.me/ti/p/~mingnp2014
ส่วนงานเหล็กในไทยมีการพัฒนาควบคู่การออกแบบของสถาปนิกต่างชาติจะเห็นเริ่มๆ ในช่วง รัชกาลที่ ๕ ที่เริ่มมีการสร้างวัง สถานีรถไฟ สร้างสะพาน และอื่นๆ ยังพอมีงานเหล็กให้เราพอได้เห็นอยู่บ้าง มาต่อยุค 60-70 ปี ที่ผ่านมาเป็นงานเหล็กลักษณะที่สถาปนิกไทยออกแบบให้เข้ากับบ้าน จะเป็นบ้านคนตระกูลเก่าแก่ ยังพอมีให้เห็นตามชอกซอย ถนนสุขุมวิท สาทร อารีย์ ลาดพร้าว (ผมชอบดูและอมยิ้มคนเดียวเมื่อได้เห็นมัน) มาในยุค 15-25 ปีนี้ งานเหล็กอิตาลี หรือ worught iron มีความนิยมมากขึ้นมาก เริ่มมาจากคนอิตาลีมาทำการตลาดและโรงงานในไทย คนไทยถึงเรียกว่า เหล็กอิตาลี (ผมเองก็ซื้อวัสดุบางส่วนจากเขามา 23-24 ปีแล้ว) สำหรับชิ้นงานในวันนี้เราออกแบบ ผลิต ติดตั้ง งานประตูเหล็กดัด รั้วเหล็กดัด บันไดเหล็กดัด ระเบียงเหล็กดัด และงานศิลปะ art piece ไปเยอะมาก
‘‘ชิ้นงาม’’ จะเริ่มต้นทำงานด้วยการออกแบบ หลังจากรับเรื่องราวมาระดับนึง
รูปแบบงานเหล็กดัด ที่พบเห็นในบ้านเรา
1. Style Contemporary
2. Style Classic
3. Style Modern
4. Style Modren + Art deco
วัสดุที่ ‘‘ชิ้นงาม’’ เลือกใช้
1. เหล็กตัวหลัก เรานำเข้าจาก อิตาลี 70-80%
2. เหล็ก มอก. ทำกรอบ เสา
3. อะไหล่ใบไม้ ดอกไม้ ตุ้ม นำเข้าตรงจากผู้ผลิตต่างประเทศ
4. สีดำ ด้าน 30% เงา 70% เนื้อสีอะคริลิค ยืดหดตามอากาศได้ดี ผมสั่งผลิตจากบริษัทคนญี่ปุ่น มาเกือบ 20 ปี
5. เชื่อมเหล็ก ด้วยระบบ mig
6. ใช้ความร้อน ในการดัด รีดปลาย
ประสบการณ์ในการทำงานและการร่วมงาน มาเยอะมาก
1. คาสิโน เวเนเชียน ลาสเวกัส
2. ร้านอาหารไทย ในต่างประเทศ เกิน 20 แห่ง
3. โรงแรม ระดับ 5-6 ดาว
4. บ้าน Land & House (300ล้าน) และอีกหลายหมู่บ้าน
5. ห้างอันดับต้นๆ icon siam , terminal21
6. คนมีชื่อเสียง นักร้อง นักแสดง ตำรวจ ทหาร หรือเจ้าสั่ว
7. พระราชวัง และทรัพยสินส่วนพระมหากษัตริย์
8. บ้านคนทั่วไป ทีมีความเป็นตัวตนเองสูง/unique (ผมชอบงานแบบนี้ที่สุด คือ ดิวตรงเจ้าของ สื่อสารไม่ซับซ้อน ได้เรียนรู้มุมมองลูกค้า เหมือนได้เดินทางและงานจบถือว่า small win)………และงานอืนๆ อีกมากมาย ครับ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเลยที่ : http://line.me/ti/p/~mingnp2014